T H I N K I N G W I T H C O N C E P T S
การคิดแบบมีแนวความคิด
• แนวความคิดอยู่รอบๆตัวเราเหมือนกับอากาศที่เราหายใจ
เคล็ดลับของการคิดคือ เราต้องคิดแนวความคิดโดยคิดจากหลายสิ่ง หลายมุมมอง สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดไอเดียและ
ไอเดียจะหลอมรวมกันเป็นแนวความคิด ยิ่งคิดจากหลายๆคน จะทำให้ แนวความคิดนั้น
แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพราะเกิดจากไอเดียและ มุมมองของคนหลายๆคน
• มนุษย์เราได้รับประสบการณ์ทุกสิ่งทุกอย่างส่วนใหญ่จากสิ่งที่
ถูกตีความ และให้ความหมายมาแล้ว
มันจะทำให้เราจดจำสิ่งๆนั่นได้อย่างดี(เป็นเหตุให้แนวความคิดนั้นสำคัญ)
• เราใช้ชีวิตปกติเรื่อยๆมาป็นประจำและใช้ชีวิตเป็นกิจวัตรโดยไม่รู้สึกถึง
กระบวนการและที่มา
ในชีวิตประจำวันของเราเราทำทุกสิ่งโดยไม่ค่อยได้พบเห็นกับคำว่าแนวความคิด
แต่ถ้าเรา ใส่ความคิดที่มีลงไปในการกระทำ
จะช่วยเพิ่มการจดจำและความหมายของสิ่งที่เราทำมากขึ้น
• การที่เราไม่คิดโดยใช้วิจารณญาณ
มันเหมือนกับเราตกเป็นเหยื่อต่อภาพลวงตาที่เรียกกันว่า “ชื่อ(ภาษาที่เราใช้)” เช่นพูดคำว่า ถนน ต้นไม้ ท้องฟ้า ภูเขา
แต่ไม่ได้พูดถึงพิจารณาถึง รูปร่าง รูปทรง สีของมัน
แนวความคิดเหล่านี้ที่เราได้รับจากภาษาที่เราใช้มันมาจากรุ่นเก่าเเก่ วัฒนธรรม
ที่ทำกันมานาน เมื่อเราปรระยุกต์ใช้แนวความคิดเหล่านี้ บางทีเราอาจไม่เข้าถึงมัน
เพราะเรารู้จักโดยการ บอกต่อกันมา แต่ไม่ได้สัมผัสจากประสบการณ์
และเกิดจากการรับรู้ทางจิตใจของตนเอง
• ถ้าเราต้องการช่วยนักศึกษาพัฒนา
ให้เป็นนักคิด นักพัฒนา เราต้องพัฒนาเพิ่มพลังจิต พลังที่จะสร้างสรรค์แนวความคิดผ่านสิ่งที่พวกเขา
พบ ประสบ จากประสบการณ์ต่อโลก
พวกเขาต้องรู้จักจัดการความคิดของตัวเขาเองเพื่อนที่จะได้มาซึ่งควมเชี่ยวชาญในการคิดเชิงวิจารณญาณ
และจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญของการสร้างแนวความคิด
พวกเขาต้องปรับปรุงความสามารถที่จะ แยกย้ายสลับเปลี่ยน
จากแนวความคิดที่เกิดจากไอเดียเดิมไปสู่ไอเดียใหม่ที่เป็นทางเลือกอื่นๆ
และต้องไปหลงกลไปกับชื่อ เพราะว่าชื่อไม่ใช้สิ่งของเป็นเพียงนามธรรม
สิ่งที่เราสนใจไม่ไช่นามธรรมแต่เป็นรูปธรรมถ้าเราติดอยู่กับคำว่า
ชื่อจะทำให้เราตัน คิดอะไรไม่เป็นอิสระ แต่ถ้าเราคิดได้ถึงรูปธรรม ของชื่อนั้นๆ
จะทำให้เรามีความคิด แตกออก
การแตกฉานทางด้านแนวความคิด
การแตกฉานทางด้านแนวความคิดต้องอาศัยความแตกฉานทางด้านภาษา การเข้าใจในภาษาถ่องแท้ค่อนข้างสำคัญต่อการคิดคอนเซป มันค่อนข้างสำคัญในการ จะเลือกใช้คำแต่ละคำ เพราะบางคำที่คล้ายกันอาจให้ความคิดที่แตกต่างกันก็เป็นได้
ทดสอบความเข้าใจคำพูดพื้นฐานที่สามารถนำไปใช้ได้
คำในคู่ต่อไปนี้มีความคล้ายตลึงกันแต่
มีสาระความสำคัญที่แตกต่างกัน
ให้ลองจดความเข้าใจถึงความแตกต่างของศัพท์คู่ต่อไปนี้ดูแล้วค่อยไปหาความหมายใน Dictionary ดู ว่ามันใกล้เคียงกับความคิดของคุณหรือไม่
1) clever/cunning 5) socialize/educate 10) jealousy/envy
2) power/control 7) selfish/self-motivated
3) love/romance 8) friend/acquaintance
4) believe/know 9) anger/rage
2) power/control 7) selfish/self-motivated
3) love/romance 8) friend/acquaintance
4) believe/know 9) anger/rage
จากการฝึกฝนกิจกรรมอันนี้นักศึกษาควรสามารถเริ่มที่จะกลายเป็น
ผู้พูดที่ได้รับการศึกษาในภาษาของตนเองได้อย่าง ถ่องแท้
การที่จะพูดภาษาได้อย่างถูกต้องตามความคิด จะทำให้ผู้ฟังเข้าใจถึง
คำพูดนั้นไปในทางเดียวกัน และจะนำไปสู่แนวความคิดที่แท้จริง
การแตกฉานทางด้านแนวความคิดต้องการความเข้าใจในสภาพสังคม
ปัญหาใหญ่มีสองด้านคือ การขาดความเข้าใจทางด้านภาษาอย่าลึกซึ้งจากที่ กล่าวมาด้านต้น และการขาดความเข้าใจที่ลึกซึ้งต่อสภาพสังคมพื้นถิ่นที่ถูกปลูกฝังซึ่งเป็นธรรมดาที่เราจะถูกปลูกฝังจากสถานที่ที่เราอยู่ และ การปลูกฝังในแต่ละสถานที่นั้น ต่างกันออกไป อาจทำให้เกิดการเข้าใจที่แตกต่างกัน ดังนั้น การเข้าใจในสภาพสังคม พื้นถิ่น จะช่วยให้เราอธิบายความคิดของเรา ตรงกับผู้ฟังได้
หนทางสู่ความคิดอันอิสระ
•
เมื่อต้องการไปสู่เสรีภาพทางความคิด
เราจะต้องพัฒนาความสามารถ
ในการแยกแยะความแตกต่างของแนวความคิดและไอเดียในเรื่องสังคมพื้นถื่นของเราและในภาษาธรรมชาติที่เราพูด
เราต้องเข้าใจความแตกต่างของวัฒนธรรมและประยุกต์ให้เข้าใจ ยกตัวอย่างเช่น
คนอเมริกา ไอร์แลนด์ แคนาดา พูดภาษาอังกฤษเหมือนกัน จะทำให้มีความเข้าใจในด้านภาษาเหมือนกันแต่อาจจะมีความเข้าใจทางด้านสภาพสังคมที่
แตกต่างกัน พวกเขาต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน จึงจะสามารถ
สื่อสารความคิดได้อย่างอิสระ
•
แต่อย่างไรก็ตามมนุษย์แล้วมีการปรับสภาพทางสังคมไปในทางที่เข้าข้างต่อวัฒนธรรมตนเอง
เราจึงต้องคอยพัฒนาความคิดทางวิจารณญาณอยู่เสมอ เพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งแนวความคิดที่ถูกต้อง
ความท้าทายที่เราเผชิญ
•
ถ้าเราต้องการจะช่วยให้ผู้คนมีความคิดที่ดีและถูกต้องต่อแนวความคิด
เราต้องสอนให้พวกเขามองสิ่งต่างๆให้ทะลุ(ปลอกเปลือกภาษา) พิจารณาทางเลือกหลายๆทาง
ที่จะพูด และคำนึงถึงมัน บางทีสิ่งที่คนเราถูกปลูกฝังจากสังคม
จะทำให้คนเรามีความเชื่อเข้าข้าง ตัวเอง มีความเชื่อที่เห็นแก่ตัว
เพราะเราถูกปลูกฝังไว้อย่างลึก อาจจะถูกกับดักนี้หลอกได้
โดยต้องสอนให้เรายอมรับเผชิญความคิดอื่นๆเเละวิเคราะห์ จากหลายมุมมอง
ก่อนที่จะได้ข้อสรุปแนวความคิด ความคิดที่แท้จริง
สรุปและจับประเด็น
• การหาแนวคิดควรคิดจากหลายๆมุมมอง
เปิดรับเหตุผล และ ความคิดเห็นต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ในสภา มีการถกเถียงกัน
ต่างคนต่างนำเอาเหตุผลต่างๆ ของหลายๆคน มานำเสนอ
และสุดท้ายก็สรุปและประมวลผลทำให้เกิดแนวทางในการดำเนินงานในเรื่องต่างๆได้
โดยแนวทางที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นแนวทางที่มั่นคง และ หนักแน่น
เพราะเกิดจากการตกผลึกเหตุผล และความคิด หลายๆทาง เข้าด้วยกัน
• การกระทำในชีวิตประจำวันนั้นก็ก่อให้เกิดแนวความคิดใหม่ๆได้
โดยปกตินั้นคนเรามักใช้ชีวิตแบบ ออโตเมติก คือ ทำไปตามกิจวัตรที่ทำทุกวัน
แต่ถ้าเราหยุดกระทำแบบนั้น แล้วใส่ความคิดลงไป ตั้งคำถามกับสิ่งที่เราทำว่า
เราทำไปทำไม เพื่ออะไร ซึ่งจะก่อให้เกิดแนวความคิดใหม่ๆ ได้ เช่น ทำไมเราต้องใส่ถุงเท้า
เพราะ เดี๋ยวเท้าเหม็น และถ้าเรามีน้ำยาดับกลิ่นเท้าหล่ะ
เราก็ไม่ต้องใส่ถุงเท้าไปข้างนอก
• การที่เราคิดโดยมีวิจารณญานจะทำให้เราไม่ตกอยู่กับสิ่งเดิมๆ
ไม่ติดอยู่กับสิ่งที่เค้าบอกต่อมา เราต้องทำความเข้าใจด้วยตนเอง
อย่าเชื่อในสิ่งที่ตนเองยังไม่เคยสัมผัส อย่ายึดติดกับชื่อเรียก เช่น ถนน ภูเขา
ต้นไม้
โดยเราต้องคิดตามด้วยว่าลักษณะเป็นอย่างไร
• การที่เราจะสอนให้เกิดความพัฒนาทางด้านความคิด
เราควรที่จะสอนให้ไม่ยึดติดกับนามธรรม อย่าติดอยู่ในกรอบของภาษา หรือ
สิ่งที่ถูกกำหนดขึ้นโดยคนยุคก่อน คิดถึงรูปธรรม ของชื่อๆ นั้น
ว่ามันสามารถเป้นอย่างไรได้บ้าง จะทำให้ความคิดของเราแตกแขนง
การแตกฉานในด้านความคิด ต้องอาศัย
• ความแตกฉานทางภาษา ควรเลือกใช้คำให้เหมาะสม เนื่องจาก
มีคำที่คล้ายกันแต่สาระสำคัญต่างกัน
ซึ่งจะทำให้สื่อความหมายให้ผู้ฟังมีแนวความคิดคลาดเคลื่อนกันได้
• ความเข้าใจทางด้านสังคม ทำความเข้าใจสังคมต่างๆ
เพราะแต่ละสังคมก็มีแนวคิดเป็นของตนเอง
เราควรที่จะศึกษาและทำความเข้าใจถึงสังคมนั้นๆ ว่ามีลักษณะอย่างไร เช่น คนไทย
ไปเจรจาการค้ากะชาวญี่ปุ่น เราก็ควรจะศึกษาสังคมของเค้าว่าเป้นอย่างไร เช่น
การทำความเคารพ เค้าทำกันอย่างไร คำพูดไหนที่ผู้ฟังฟังแล้วไม่เข้าหู เป็นต้น
โดยทั้งความแตกฉานทางภาษา และความเข้าใจทางสังคมนั้น เป้นหนทางสู่ความคิดอิสระซึ่งความท้าทายที่เราเผชิญนั้นคือต้องสอนให้ผู้คนมีความคิดที่ทะลุ กรอบของสังคม ยอมรับฟังความคิดเห็นต่างๆ จากหลายมุมมองแล้วนำมาวิเคราะห์ทำให้เกิดแนวความคิดที่แท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น