วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556

คุณสมบัติเชิงปัญญาที่มีคุณค่า

คุณสมบัติเชิงปัญญาที่มีคุณค่า

การมีความถ่อมตนเชิงปัญญา
คือการตระหนักถึงความรู้ที่มีอยู่จำกัดของตน  รวมทั้งมีความไวต่อสถานการณ์ที่ทำให้เกิดการคิดเข้าข้างตนเองจนกลายเป็นการหลอกตนเอง ไวต่อมุมมองที่จำกัด มีความอคติ และมีความลำเอียง ความถ่อมตนเชิงปัญญาขึ้นอยู่กับการที่คนๆนั้นรู้ตนเองว่าไม่ควรอ้างมากกว่าที่ตนรู้(มากกว่าความรู้ที่ตนมี) ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นการแสดงว่าคนๆนั้นไร้ความเข้มแข็งหรือยอมจำนนแต่เป็นการบ่งบอกว่าบุคคลผู้นั้นไม่ใช่ผู้อวดรู้ ชอบคุยคุยโวอวดอ้าง อีกทั้งเป็นการแสดงถึงความเข้าใจในพื้นฐานทางตรรกะและการรับรู้ในความบกพร่องหรือความเชื่อของตน

ความกล้าหาญเชิงปัญญา
คือการตระหนักถึงความจำเป็นในการที่ต้องเผชิญและแสดงความคิด ความเชื่อ หรือมุมมองในสิ่งที่เรามีความรู้สึกในด้านลบกับมันรวมไปถึงสิ่งที่เราไม่ได้สนใจรับฟังอย่างจริงจัง  ความกล้าหาญนี้เชื่อมโยงกับการที่เราสำนึกได้ว่าบางความคิดที่ถูกพิจารณาว่าเป็นอันตรายหรือฟังดูไร้สาระ...บางครั้งอาจเป็นเหตุผลที่สมเหตุสมผลได้(ในบางส่วนหรือทั้งหมด) และข้อสรุปและความเชื่อที่ได้รับการย้ำพร่ำสอนมานั้นอาจไม่เป็นจริงและทำให้เข้าใจผิดได้ ในการตัดสินว่าอะไรเป็นอะไรนั้น...เราต้องไม่ยอมรับในสิ่งที่ได้เรียนรู้มาโดยขาดการพินิจพิเคราะห์ ความกล้าหาญเชิงปัญญามีบทบาทในที่นี้เนื่องจากเราอาจต้องมาพบกับความจริงในบางความคิดที่เป็นอันตรายหรือดูไร้สาระอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมทั้งความคิดที่บิดเบือนและเป็นเท็จที่กลุ่มของเรายึดมั่นอยู่ เราต้องการความกล้าหาญเพื่อที่จะได้ซื่อสัตย์ต่อความคิดของเราในสภาวะ/สถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งโทษทัณฑ์จากความไม่สอดคล้องนี้อาจรุนแรงสาหัส

ความร่วมรู้สึกเชิงปัญญา
คือการตระหนักถึงความจำเป็นที่ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา..เข้าอกเข้าใจเขาอย่างจริงใจ ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องการการตระหนักถึงแนวโน้มในการถืออัตตาของเรามาเป็นบ่งชี้ความจริงด้วยความเข้าใจในทันทีทันใดจากความเชื่อหรือความคิดที่มีมาก่อน คุณลักษณะนี้สัมพันธ์กับความสามารถในการที่จะสร้างมุมมองและเหตุผลของผู้อื่นขึ้นมาใหม่และการให้เหตุผลจากสมมติฐานและความคิดจากผู้อื่นได้อย่างถูกต้อง คุณลักษณะนี้ยังสัมพันธ์กับความเต็มใจที่จะจดจำ..ระลึกได้ถึงสิ่งที่เราเคยทำผิดพลาดในอดีตแม้จะเคยเชื่อมั่น/มั่นใจว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกต้อง รวมถึงความสามารถที่จะจินตนาการได้ว่าเราก็อาจถูกหลอกลวงในลักษณะคล้ายๆกันนี้ได้เช่นเดียวกัน

ความซื่อสัตย์เชิงปัญญา 
คือการระลึกได้ว่าเราจำเป็นจะต้องซื่อสัตย์ต่อความคิดของเราเอง ในการที่จะมีมาตรฐานเชิงปัญญา...เราต้องยึดมั่นอย่างเคร่งครัดที่จะใช้หลักฐานและข้อพิสูจน์ด้วยมาตรฐานเดียวกันทั้งกับตนเองและศัตรู  ฝึกฝนทำในสิ่งที่เราได้สนับสนุนให้ผู้อื่นทำ และยอมรับความแตกต่างและความไม่แน่นอนของความคิดและการกระทำของเราได้โดยสุจริตใจ

ความอุตสาหะเชิงปัญญา
คือการตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องใช้วิจารณญาณเชิงปัญญาและความจริงแม้จะต้องเผชิญกับความยากลำบาก อุปสรรค หรือความผิดหวัง ยึดมั่นอย่างแน่วแน่ในหลักการที่มีเหตุผลแม้จะต้องพบกับการต่อต้านคัดค้านอย่างไร้เหตุผลจากผู้อื่น มีสำนึกที่จะต่อสู้กับความสับสนและคำถามยุ่งเหยิงที่ยังไม่มีข้อสรุปเป็นเวลานาน เพื่อให้บรรลุ/เข้าใจได้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น

ความศรัทธาในเหตุผล
ในระยะยาวแล้ว...มีความเชื่อมั่นว่าผลประโยชน์ที่สูงกว่าของบุคคลและมนุษยชาติเกิดขึ้นได้ด้วยการให้เสรีทางเหตุผล โดยเกิดจากการสนับสนุนให้ผู้คนหาข้อสรุปของพวกเขาเองโดยการพัฒนาปัญญาที่มีเหตุผล เชื่อมั่นว่าด้วยการสนับสนุนและการปลูกฝังที่เหมาะสม...ผู้คนจะสามารถเรียนรู้ที่จะคิดเพื่อตัวพวกเขาเองได้ สามารถสร้างมุมมองที่มีเหตุมีผล หาบทสรุปที่เป็นเหมาะสมได้ สามารถคิดอย่างมีตรรกะและคิดประติดประต่อได้ สามารถโน้มน้าวกันและกันได้ด้วยเหตุผลและกลายมาเป็นบุคคลที่มีเหตุผลได้ถึงแม้จะมีอุปสรรคที่หยั่งรากลึกอันเป็นลักษณะดั้งเดิมของมนุษย์และสังคมอย่างที่เรารู้กันอยู่ก็ตามที

ความมีใจยุติธรรม
คือการตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องมองทุกมุมมองให้เท่าเทียมกันโดยไม่อิงกับความรู้สึกส่วนตัวของบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือผลประโยชน์ของใครคนใดคนนึง...เพื่อน..ชุมชนหรือของชาติ แสดงออกถึงการยึดมั่นในในมาตรฐานเชิงปัญญาโดยปราศจากการอิงเข้ากับผลประโยชน์ของบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือฉพาะกลุ่มของตนเอง

ปณิธิ ตะเวทิพงศ์ ภส.๓๑๗
ภัทรภร วีระเกียรติกิจ ภส.๓๒๕


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น